สบู่จิ๊กซอว์ ME by บุ๋ม-ตรีรัก ลด 50%

สบู่จิ๊กซอว์ ME by บุ๋ม-ตรีรัก จัดโปรสุดคุ้ม เชต 4 ก้อน ลด 50% เพียง 190 บาท
ลดข้ามปี มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ซื้อได้ที่สยามพารากอน และทาง FB 

บริษัท ตรี ตรีรัก จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม by คุณบุ๋ม ตรีรัก รักการดี สบู่จิ๊กซอว์ME เป็นสบู่ล้างหน้าออร์แกนิค ส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เนื้อกลีเซอรีน อ่อนโยน ไร้สาร SLS / SLES ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ช่วยฟื้นฟูและกู้ใบหน้าของทุกคนให้คืนกลับสู่ความสวยที่สดใส ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่น ไร้สิว และจุดด่างดำ ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว มีทั้งหมดถึง 25 สูตร สามารถเลือกแมทซ์สูตรเองได้ตามสภาพผิวของผู้ใช้ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ1. กลุ่มคุณสมบัติของผิวพรรณ 10 สูตร 2. กลุ่มสครับ 6 สูตร และ 3. กลุ่มน้ำหอม 9 กลิ่น 

สบู่จิ๊กซอว์ ME จัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดข้ามปี 50% สบู่เชต 4 ก้อน สามารถคละสูตรได้ บรรจุในกล่องสวยเก๋ดูดี เพียง 190 บาท จากราคาปกติ 380 บาท สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สยามพารากอน ชั้น 4 โซน Bath Accessories และซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2568 ที่ Facebook : TRI_Gangsters จะซื้อสบู่จิ๊กซอว์ ME ใช้เองก็ดี หรือซื้อเป็นของฝากให้แก่คนที่คุณรักหรือของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับคนพิเศษของคุณ ซื้อให้ใครรับรองผู้รับต้องชอบแน่ๆ สบู่จิ๊กซอว์ ME เชต 4 ก้อนใช้ได้นานเป็นเดือน การันตีคุณภาพทุกก้อน

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่น และข้อมูลเพิ่มเติมของสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม ทั้ง 25 สูตร
ได้ที่ Facebook : TRI_Gangsters, Line : @tri_gangsters และเว็บไซต์ http://trigangsters.com
หรือติดต่อสอบถามที่โทรศัพท์  02 040 1466 และ 063 351 9649

เริ่มแล้ว!! เวทีการประกวดผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ปลุกปั้นนักออกแบบไทย

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เชิญชวนนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เข้าร่วมโครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 เพื่อร่วมนำเสนอผลงานศิลปหัถตกรรมไทยที่มีศักยภาพและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาศิลปหัตถกรรมไทยไปไกลระดับโลก ชิงเงินรางวัลพร้อมเงินสนับสนุนในการผลิตผลงานต้นแบบรวมมากกว่า 650,000 บาท ภายใต้แนวคิด “Innovative Heritage Craft: หัตถศิลป์ แห่งมรดกหัตถกรรม” ตั้งแต่บัดนี้ – 15  มกราคม 2568

ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย  เผยว่า ” โครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 ถือได้ว่าเป็นโครงการประกวด ฯ เพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ ได้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญ และค้นหาแนวทางในการสืบสานงานหัตถศิลป์ไว้ด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน นวัตศิลป์ร่วมสมัยผ่านการผสมผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์”

สำหรับในปี 2568 นี้ SACIT เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับโอกาสในการคัดเลือกและนำเสนอผลงานที่แสดงถึง การสืบสาน สร้างสรรค์ ส่งเสริม งานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับองค์ความรู้ในกิจกรรม SACIT Craft Lab เพื่อพัฒนารูปแบบผลงานประกวดสร้างสรรค์  สู่การเป็นผลงาน Masterpiece รวมถึงการเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ จนไปสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการค้าทั้งในประเทศและในระดับสากล โดย Creative Craft Coach  (นักสร้างสรรค์งานคราฟต์) ระดับประเทศและมากประสบการณ์ เพื่อชิงรางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศจะได้รับเงินสด 150,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัล

ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวด ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้ – 15 มกราคม 2568              ผ่านเว็บไซต์ www.sacit.or.th พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
ผ่านลิงค์ Google Form : https://forms.gle/fBgGAAFjhvxzpiiu8
หรือ ผ่านทางไปรษณีย์: สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)
เลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 13290
วงเล็บมุมซอง (I.CCA. 2025) 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.สุกานดา ถิ่นฐาน / คุณเปี่ยมพร ฉายศรี
(ผู้ประสานงานโครงการ) โทรศัพท์: 086 564 4666 / 088 931 5345  Email: contact.icca2025@gmail.com

บลูช็อป จับมือ น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช จัดโปรพิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2025

เมื่อ “บลูช็อป” จับมือ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช” จัดโปรพิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2025 กับน้ำปลาร้า ในร้านบลูช็อปฉลองครบรอบ 12 ปี 19 สาขา ในราคาเพียง 19 บาท แทนคำขอบคุณและเติมกำลังใจให้ทุกครอบครัวในห้วงเวลาสำคัญ ปีใหม่นี้ แซ่บนัวถึงใจกันถ้วนหน้า! 

นางชนานาถ ดลมินทร์ หรือ ‘เจ้เพ็ญ‘ ผู้บริหารบลูช็อป พร้อมด้วย นางไพลิน โตอิ้ม หรือ แม่ไพลิน ผู้บริหาร บริษัท จ่าวิรัชฟู้ดส์ จำกัด และเจ้าของธุรกิจ น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช  แถลงข่าวความร่วมมือครั้งสำคัญ ในการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อเป็นการมอบของขวัญแทนคำขอบคุณลูกค้า ‘ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2025’ โดย ‘แม่ไพลิน’ ได้นำน้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช จัดแคมเปญ น้ำปลาร้าปันสุขกับบลูช็อป จัดจำหน่ายในร้านบลูช็อปทั้ง 19 สาขา ในราคาสุดพิเศษ เพียง 19 บาท จำนวนทั้งสิ้น 50,000 ขวด ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ของ น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช กับ บลูช็อป มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบน้ำปลาร้าได้ซื้อไปรับประทานกันในราคาประหยัด ที่สำคัญ ยังเป็นการลดต้นทุนให้กับพ่อค้า แม่ค้า ที่ใช้น้ำปลาร้า ในการประกอบอาหารจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่อีกด้วย 

โดย ‘เจ้เพ็ญ’ เจ้าของบลูช็อป กล่าวว่า โดยปกติแล้ว บลูช็อป เป็นร้านที่จัดจำหน่ายสินค้าในราคาประหยัดให้กับผู้บริโภคอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ติดต่อคุณแม่ไพลิน ขอขายในราคานี้ คุณแม่ไพลินท่านตอบตกลงให้เป็นพิเศษเฉพาะที่บลูช็อปเท่านั้น  โดยนำน้ำปลาร้า มาจัดจำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้าบลูช็อป จึงต้องขอขอบคุณ ทาง บริษัท จ่าวิรัชฟู้ดส์ จำกัด เข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจใน และเห็นใจผู้บริโภค จึงได้ให้ราคาสุดพิเศษกับบลูช็อป นอกจากนี้ ยังทำให้บลูช็อปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวดีๆ  โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ผู้คนต้องเดินทางกลับไปหาครอบครัว สามารถนำน้ำปลาร้าดีๆ กลับไปทำอาหารรับประทานกันร่วมกันภายในครอบครัวอย่างมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำปลาร้ามีราคาสุดประหยัดเพียง 19 บาท รสชาติอร่อยถูกใจคนในครอบครัว ถือว่าเป็นการเติมกำลังใจให้คนไทยด้วยกันในช่วงเวลาปีใหม่

ด้าน ‘แม่ไพลิน’ ระบุว่า  ร่วมกับบลูช็อปทั้ง 19 สาขา นำน้ำปลาร้า แม่ไพลิน มาวางจำหน่าย ซึ่งปลาร้าของ จ่าวิรัช แม่ไพลิน กำเนิดมา 100 กว่าปีแล้ว โดยได้คัดสรรปลาคุณภาพอย่างดีมาเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตน้ำปลาร้า ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย สามารถนำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ยำ แกงอ่อม ลาบ น้ำพริก โดยมี 4 สูตรด้วยกัน ได้แก่ สูตรอีสาน แซ่บคูณสอง ทรงเครื่อง และสูตรดั้งเดิม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเมนูใด รับรองว่า มีรสชาติอร่อย สะอาด ถูกหลัก ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพอื่นๆ อีกมากมายภายใต้แบรนด์ของจ่าวิรัชอีกด้วย ทั้งนี้ การร่วมมือกับบลูช็อปครั้งนี้ นับเป็นการจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ที่รับรองว่า ราคาถูกที่สุดแน่นอน น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข น้ำปลาร้าปรุงสุก สะอาด ปลอดภัย อร่อย แซ่บนัว น้ำปลาร้าที่ผลิตด้วยโรงงานที่ผ่านมาตรฐานสากล ในเครือ บริษัท จ่าวิรัชฟู้ดส์ จำกัด

“แม่เข้าใจว่า ทุกคนต้องลำบากในการทำมาหากิน ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ พ่อค้าแม่ค้าหลายคน คนหาเช้ากินค่ำ หมดทุน ท้อแท้ หมดกำลังใจ บางครอบครัว ไม่ค่อยได้กลับบ้าน รับประทานอาหารด้วยกันเพราะต่างต้องต่อสู้ดิ้นรน ทำมาหากิน ครอบครัวแม่เองก็ทำปลาร้าขายมานานหลายรุ่นแล้ว เรามีอยู่มีกินได้ เพราะปลาร้า แม่เลยคิดที่อยากจะช่วยคนที่รักในการกินปลาร้าและคนที่ทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับปลาร้า ได้ลดค่าใช้จ่าย ทางบลูช็อปติดต่อมา จึงนำน้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุขมาจำหน่ายในราคา 19 บาท อีกครั้ง จากปกติ 35 บาท เพื่อปันสุขให้กับทุกคน โดยทางบลูช็อป จัดทำโครงการน้ำปลาร้าปันสุขให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่ใช้น้ำปลาร้าเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร หรือคนที่ชอบกินปลาร้า ได้ซื้อไปกินกันในช่วงเทศกาลแบบนี้ แม่ไพลิน อยากแบ่งปันและให้กำลังใจกัน ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้รับประทานน้ำปลาร้าดีๆ ราคาประหยัด หวังอย่างยิ่งว่า จะช่วยให้คนรักปลาร้า ชอบกินปลาร้า แบบแม่ไพลินมีความสุข อีกทั้งความร่วมมือกับบลูช็อปในการร่วมจัดจำหน่าย โดยไม่หวังกำไร ยิ่งรู้สึกดีใจและชื่นชมอย่างยิ่ง”
-แม่ไพลิน กล่าว

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาร้า ชอบกินปลาร้าแบบปรุงสุก สะอาด ปลอดภัย อร่อย
แซ่บนัว ผลิตด้วยโรงงานที่ผ่านมาตรฐานสากล ต้องห้ามพลาดกับโปร ปลาร้าปันสุขกับบลูช็อป กับ น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข ได้ที่บลูช็อปทุกสาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาร้า สนใจสินค้าอื่นๆของบริษัท จ่าวิรัชฟู้ดส์ ติดตามและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ TikTok shop :jawiratfood.officia

TQM ติดกลุ่มหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ผลปีนี้อยู่ในระดับ “A”

บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ผู้นำในธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต พร้อมด้วยธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ฐานลูกค้า ได้รับการประเมินเป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ระดับ A โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ TQM โดยบริษัทยึดมั่นและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance หรือ ESG) มาโดยตลอด ทั้งนี้บริษัทในกลุ่ม ทีคิวเอ็ม อัลฟา มุ่งเน้นเน้นมาตรฐานการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “การได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ระดับ A ซึ่งปีนี้เราได้รับการจัดอันดับขึ้นมาจากปีที่แล้วด้วย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ TQM ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG มาโดยตลอด TQM จะยังคงพัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลทุกบริษัทในกลุ่มให้มีความแข็งแกร่งและยั่งยืน ยึดหลักหลักธรรมาภิบาลที่ดี และยืนยันถึงวิสัยทัศน์การดำเนินงานที่โปร่งใส เชื่อถือได้ และยึดมั่นในการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”

“สุรพงษ์” ส่งมอบความสุข ขยายเวลาให้บริการสายสีแดง ถึง ตี 2 ในคืนเคานต์ดาวน์ เป็นของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชน

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส่งมอบความสุข ขยายเวลาเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ถึง ตี 2 คืนวันที่ 31 ธ.ค. 67 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชน

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม ได้ให้ความสำคัญต่อการให้บริการประชาชนในระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท เพื่อเพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 ที่จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคม จึงได้กำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงมอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือในการเชื่อมโยงการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานส่งมอบความสุขให้แก่ประชาชน เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ด้วย

ทางด้าน นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 นี้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พร้อมขานรับนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อให้การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆได้อย่างสะดวกสบายและมีความปลอดภัย จึงได้ขยายเวลาเปิดบริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 67 โดยให้บริการจนถึงเวลา ตี 2 เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขแทนคำขอบคุณมายังประชาชนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงมาโดยตลอด พร้อมกับเตรียมของขวัญเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ เพื่อมอบให้กับผู้ใช้บริการ โดยในเทศกาลคริสต์มาส วันที่ 25 ธันวาคม 2567 จะมอบแก้วอเนกประสงค์ RED LINE MUG จำนวน 2,568 ชิ้น ให้กับผู้ใช้บริการบนขบวนรถไฟฟ้า โดยเหล่าซานต้า Influencers ชื่อดัง พร้อมรับฟังการบรรเลงเพลงคริสต์มาสจากวงไอดอล และในเทศกาลปีใหม่ ยังเตรียมของขวัญสุดพิเศษ ยาดมสมุนไพร ตรารถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อความสดชื่นต้อนรับปีใหม่ ให้แก่ผู้ใช้บริการ จำนวน 2,568 ชิ้น ในวันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี ตั้งแต่เวลา 05.30 น. – 24.00 น. หรือจนกว่าของจะหมด บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ใช้บริการทุกท่านจะได้รับความสุข ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยตลอดการเดินทางในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้

นอกจากนี้ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เตรียมเอาใจคนรักสัตว์ โดยตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2568 เป็นต้นไป รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดแคมเปญ Pet Friendly Train Weekend Service (เฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์) เพื่อให้การเดินทางของท่านเป็นการเดินทางอันแสนพิเศษไปพร้อมกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก โดยสามารถนำสัตว์เลี้ยง ร่วมเดินทางไปท่องโลกกว้างได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

สำหรับด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสุนัขทหาร K9 ตรวจตราในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงจุดที่มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุก่อการร้าย หรือเหตุวินาศกรรม พร้อมกำชับกวดขันเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คอยสอดส่องและระมัดระวังเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆทุกสถานี นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังพื้นที่ผ่านระบบ CCTV โดยควบคุมการปฏิบัติงานผ่านวิทยุสื่อสาร หากเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้นภายในสถานีรถไฟฟ้า จะสามารถดำเนินการเข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ขอขอบคุณในทุกการสนับสนุน และจะมุ่งมั่น พัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองได้อย่างยั่งยืน

โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ www.srtet.co.th

“มากกว่าการเดินทางคือ …ความพิเศษ”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

อนันตราเชียงใหม่รีสอร์ท เปิดตัวเรือลำใหม่

อนันตราเชียงใหม่รีสอร์ท เปิดตัวเรือลำใหม่สุดตระการตา พร้อมเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สุดของภาคเหนือประเทศไทย เพื่อนำแขกเข้าสู่ประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษ โดยเรือชื่อ “ทิพยานจิต” หรือที่แปลว่า “เรือแห่งสรวงสวรรค์” ได้รับการออกแบบโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ
ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะผู้สร้างสรรค์ “วัดร่องขุ่น” ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่าล้านคนจากทั่วโลกในแต่ละปี

อาจารย์เฉลิมชัยเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศไทย และได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นศิลปินแห่งชาติในปี พ.ศ. 2554 เพื่อยกย่องผลงานตลอดชีวิตของท่าน ผลงานล่าสุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดภาพวาดที่มีชื่อว่า “ทิพยานจิต” โดยการออกแบบเรือบรรยายถึงการเดินทางจากโลกนี้สู่โลกหน้า และส่วนหัวเรือได้รับการแกะสลักด้วยมือเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ในตำนาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการพามนุษย์ล่องแม่น้ำสู่สรวงสวรรค์

“ทิพยานจิต เป็นเรือที่เกิดจากความฝันของศิลปิน เรือที่มีคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์อย่างล้ำลึก ผมอยากสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นสมบัติของชาติ ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อโรงแรม แต่ต้องเป็นสิ่งที่พิเศษจริง ๆ” อาจารย์เฉลิมชัยกล่าว
“ผมหลงใหลในเรือของอยุธยาสมัยโบราณ โดยเฉพาะเรือที่มีดีไซน์แปลกและพิเศษ และสนุกกับการศึกษาเรือเหล่านี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงาน ผลงานของผมเกี่ยวกับสรวงสวรรค์อยู่แล้ว จึงตัดสินใจออกแบบเรือ ‘ทิพยานจิต’ โดยนำแรงบันดาลใจจากเรือในสมัยอยุธยามาผสมผสานกับสไตล์ของผม เป็นเรือที่พาผู้คนล่องไปสู่โลกแห่งสรวงสวรรค์ การวาดเรือเป็นความฝันส่วนตัวที่ผมหลงใหลมาโดยตลอด”

เรือลำนี้มีความพิเศษเปรียบดังศิลปะลอยน้ำ โดยจะรองรับแขกสูงสุดเพียง 18 ที่นั่งเท่านั้น แขกบนเรือจะได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยชั้นเลิศ ซึ่งเมนูจะเปลี่ยนทุกฤดูกาลโดยเชฟที่ได้รับดาวมิชลินหรือมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับชั้นนำของประเทศไทย สำหรับเมนูเปิดตัวได้รับการสร้างสรรค์โดย เชฟปิยชาติ พุทธวงศ์ หรือเชฟบอย จากร้านอาหารเสน่ห์จันทน์ในกรุงเทพฯ

เชฟบอยเติบโตในครอบครัวที่มีอาชีพทำอาหาร และเริ่มมีชื่อเสียงจากการเข้าร่วมรายการ Iron Chef ความเชี่ยวชาญของเขาอยู่ที่ขนมไทยแบบดั้งเดิม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตำรับขนมชาววังหายากที่เขารวบรวมมาตลอดหลายปี แขกที่ขึ้นเรือทิพยานจิตจะได้ลิ้มลองเมนู 7 คอร์สของอาหารไทยคลาสสิก ที่จับคู่ไวน์อย่างลงตัวจาก Monsoon Valley ไร่องุ่นชั้นนำของประเทศไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ถึงปลายเดือนมีนาคม 2568

“ที่อนันตราเชียงใหม่ ชีวิตริมน้ำคือหัวใจสำคัญของประสบการณ์ในรีสอร์ท” นายพิทักษ์ นรเทพกิตติ ผู้จัดการทั่วไปของอนันตราเชียงใหม่ รีสอร์ทกล่าว “แม่น้ำปิงคือสายใยชีวิตของเมืองเชียงใหม่มาแต่ยาวนานนับหลายร้อยปี การได้เห็นชีวิตที่ดำเนินไปตามสองฝั่งแม่น้ำ คือการสัมผัสจิตวิญญาณของจุดหมายปลายทางนี้อย่างแท้จริง และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับศิลปินระดับโลกอย่างอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษนี้ให้แก่แขกของเรา”

ทิพยานจิต เปิดให้บริการอาหารเย็นทุกวัน เวลา 17:30 น. จากท่าเรือส่วนตัวของอนันตราเชียงใหม่ รีสอร์ท โดยเหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกและจิบค็อกเทล ระหว่างมื้ออาหาร แขกจะได้เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีไทย และสามารถยืมชุดไทยเพื่อถ่ายภาพเก็บความทรงจำอย่างเต็มอิ่ม 

ราคาอาหารเย็นท่านละ 6,999++ บาท และเพิ่มอีก 1,999++ บาท
สำหรับไวน์แพริ่ง เรือทิพยานจิตพร้อมให้บริการในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการสำรองที่นั่ง
โทร +66 (0) 53 253 333
อีเมล chiangmai@anantara.com หรือ LINE @Anantarachiangmai

Thailand Halal Assembly 2024

“Thailand Halal Assembly 2024” โชว์ศักยภาพฮาลาลไทยในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย

เมื่อโลกก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอล ทิศทางฮาลาลจะเป็นอย่างไร พร้อมค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและ เทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคตได้ กับงานฮาลาลที่ดีที่สุดในไทย “ #ThallandHalalAssembly2024 ” ภายใต้แนวคิด “Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs” หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาล ผ่านเทคโนโลยี ดิจิทัลสองเอไอ” หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย อีกทั้งช่วยให้ประเทศ ไทยได้ขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมอัลมีรอช กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน

รศ.ดร.วินัย ตะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน จัดงาน Thailand Halal Assembly 2024 กล่าวว่า # ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( #ศวฮ.) เป็น เจ้าภาพหลักในการจัดงาน “Thailand Halal Assembly 2024 ( #THA2024 )” การประชุมวิชาการด้าน วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมฮาลาลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ ความรู้ใหม่และนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกฮาลาล ให้กับมุสลิมด้วยกันเอง และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมที่มีความสนใจใน อุตสาหกรรมสาลาล โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs” หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาลผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสองเอไอ” ซึ่งปฏิเสรไม่ได้ว่าปัจจุบันโลกของเราก้าวสู่การ เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ #2AIs ที่ต้องการนำเสนอในงานครั้งนี้ได้แก่ เลโอที่ หนึ่ง คือ Actual Implementation ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานผ่านการอัพสกิล ฝึกปฏิบัติด้วยหนึ่งสมองสองมือในการ ทำงาน เช่น งานการมาตรฐานฮาลาล, การวางระบบ HAL-Q. งานห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล, งานพัฒนา นวัตกรรม, งานพัฒนาฐานข้อมูล H numbers, การตัดสินทางศาสนา (ฟุตวา) เพื่อให้มนุษย์หรือคนยังคงสภาพผู้นำ โดยมีเครื่องจักรและเอไอเป็นผู้ตาม และเอไอที่สอง คือ Artificial Intelligence โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อบริหาร จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ฮาลาล”

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ งาน IHSATEC (International Halal Science and Technology Conference) ครั้งที่ 11 และงาน HASIB (Halal Science, Industry and Business) งานประชุมวิชาการ ฮาลาลนานาชาติ ครั้งที่ 17 โดยมีหัวข้อการประชุมหลัก คือ “2 AIs for Thailand’s Halal Trust & Confidence” และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ สาสาลกับสุขภาพและความงาม, ฮาลาลกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม และ Halal Route Workshop ซึ่งทั้งสองงานประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดการประชุมระดับ นานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และธุรกิจฮาลาล โดยมีผู้เข้าร่วมจากมากกว่า 40 ประเทศ บทความวิชาการที่นำเสนอในการประชุม จะได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติ JHASIB หรือ Journal of Halal Science, Industry and Business ซึ่งจะเผยแพร่ปีละสองฉบับ เพื่อส่งเสริม งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สา ลาลในระดับสากล

รวมถึง โซน SMEs ฮาลาล การจัดแสดงศักยภาพผู้ประกอบการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ร่วม พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีพัฒนาการทั้งกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ และ การตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมนี้ ซึ่งได้รับการคัดเลือก จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะได้รับรางวัลนวัตกรรม SMEs ฮาลาล รวม 18 สถานประกอบการ จากผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น Suwirun Tea Shop Thailand Premium Organic Tea, Madi Kombucha, Vanapan Vegan Nail Care และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย และที่ห้ามพลาดกับ นิทรรศการ “Halal Trust Through Digital Technology 2AIs” ที่ผสานการนำไปปฏิบัติจริงกับปัญญาประดิษฐ์ (Al) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย เกิดความน่าเชื่อถือและเสริมสถานะ บนเวทีโลก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมี ประโยชน์ อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และธุรกิจ ฮาลาล ช่วยให้ประเทศไทยขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลจากมูลค่าปัจจุบัน 6.1 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ โดยไม่รวมการท่องเที่ยวฮาลาล ยา และโลจิสติกส์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนี้

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลและนวัตกรรมฮาลาล ค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจและเทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคต รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ ของงานเพิ่มเติมได้ที่ www.Thailandhalalassembly.com
Facebook: Thailand Halal Assembly
โทร. 02-218-0618 

เริ่มต้นเทศกาลแห่งความสุขกับพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี 


ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2567 – โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ได้จัดพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี ฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยมีแขกผู้มีเกียรติ ได้แก่ ฯพณฯ นายแพทริก เบิร์น เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย  พร้อมด้วยภริยา นางโซนาลี เบิร์น ฯพณฯ นางฮูดา อะลี ชะรีฟ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐมัลดีฟส์ระเทศไทย และนางทัตสึโกะ วิเบิร์ก ให้เกียรติร่วมกันเปิดไฟต้นคริสต์มาส ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มบริษัทออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ได้แก่ คุณฮาโรลด์ เอ็นริเก โอลายา เลออน รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป คุณวุฒิเวช เวชชบุษกร รองประธานอาวุโสและหัวหน้ากลุ่มการเงิน ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป คุณพรทิพย์ เป้าทอง รองประธานกรรมการแผนกการตลาด ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป คุณสุขมาล มอนเดล ผู้จัดการทั่วไปประจำพื้นที่กรุงเทพฯ และคุณยูวิน เทย์เลอร์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองการเริ่มต้นเทศกาลแห่งความสุขท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ณ บริเวณล็อบบี้สุดหรูของโรงแรม

ในปีนี้ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ยังเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกสองด้าน ได้แก่ การได้รับรางวัล Michelin Key อันทรงเกียรติ ซึ่งยกย่องให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับประสบการณ์การเข้าพักสุดพิเศษ และการเข้าร่วมเป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH) ซึ่งเป็นการก้าวสู่อีกขั้นสู่การเป็นโรงแรมระดับลักชัวรี่

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีมุม CSR ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน อาทิ กระเป๋าหนังรีไซเคิลรักษ์โลก แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิรักษ์โลก และตุ๊กตาหมี โดยรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เพื่อสนับสนุนโครงการด้านความยั่งยืนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการขององค์การสหประชาชาติ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ โทร: +66 (0)2 125 9080

อีเมล: reservations.oriental@oriental-residence.com
เว็บไซต์: https://www.oriental-residence.com/bangkok