Category Archives: ข่าวประชาสัมพันธ์

KEY THE ENERGY TRANSITION EXPO 

เมื่อวันที่ 4-7 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมางาน  KEY THE ENERGY TRANSITION EXPO ปีนี้ จัดขึ้นที่ RIMINI FIERA เมือง RIMINI ประเทศ ITALY โดยทีมบริหารงานของ ITALIAN EXHIBITION GROUP SpA ให้การต้อนรับทีมบริหาร บริษัท SKY GREEN จากประเทศไทย

นำทีมโดย  ดร.ปราชญ์​วลี​ อิทธิ​สวัสดิ์​ CEO และ ดร.ธีรพล  วินิจวัฒนโกมล MANAGING DIRECTOR บรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยมิตรภาพที่อบอุ่น งานจัดขึ้นในปีนี้  มีประเทศที่เข้าร่วมงานทั้งหมดมากกว่า 50 ประเทศทั่วทุกภูมิภาค

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค เปิดตัวสัญลักษณ์ Carbon Footprint of Product

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค เปิดตัวสัญลักษณ์ Carbon Footprint of Product แบบ Circular Economy (CE CFP) เจาะเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวสู่โลกที่ยั่งยืน พร้อมเผยโฉมผลิตภัณฑ์รักษ์โลกใหม่ภายใต้แบรนด์ Scott และ WypAll

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ประเทศไทย ผู้นำนวัตกรรมด้านสุขอนามัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ร่วมตอกย้ำนโยบายด้านความยั่งยืนด้วยการเปิดตัว สัญลักษณ์ Carbon Footprint of Product แบบ Circular Economy (CE CFP) อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชู่ในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) เป็นเครื่องหมายรับรองความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ช่วยลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ

โดยการเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบของงานสัมมนา “Green Life Cycle: Insight Better Care for A Better World” ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจเข้าร่วมรับฟังเสวนา แลกเปลี่ยนแนวคิด และนำเสนอแนวทางการรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ พ.ร.บ. Climate Change และมาตรฐาน G-Green ซึ่งกำลังกลายเป็นแนวโน้มสำคัญที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กรทุกขนาดในปัจจุบัน

นอกจากนี้ คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ประเทศไทย ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Scott และ WypAll ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการใช้ทรัพยากร ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อสนับสนุนองค์กรที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ

คุณปิยะพร ปฏิมาวิรุจน์ Sales Leader คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า “คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล เชื่อมั่นว่าสุขอนามัยและความยั่งยืนสามารถทำให้เกิดขึ้นไปพร้อมกันได้ เรามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านสุขอนามัย แต่ยังต้องรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งการได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์ Carbon Footprint of Product แบบ Circular Economy (CE CFP) เป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านสุขอนามัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของเรา และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม”

ในขณะที่ คุณศสิพงศ์ บุญแต้ม Marketing Manager คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “Better Care for A Better World เป็นคำมั่นสัญญาที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด เราไม่ได้แค่พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เราเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่แค่เพื่อองค์กรหรือลูกค้าของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่ยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย”

โดยภายในงานได้จัดการเสวนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและภาคเอกชนในหัวข้อสำคัญ อาทิ แนวทางการเตรียมตัวของภาคธุรกิจต่อ พ.ร.บ. Climate Change โดย ดร.กิตติศักดิ์ พฤกษ์กานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเน้นย้ำว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ไม่เพียงเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย แต่ยังเป็นโอกาสให้ธุรกิจพัฒนาและแข่งขันได้ในยุคที่ตลาดให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งยังมีการบรรยายเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐาน G-Green โดย ดร.เพชรดา อ้อชัยภูมิ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับตราสัญลักษณ์ G-Green (ไม่ว่าจะเป็น Green Hotel, Green Restaurant, Green Office) ในการสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ รวมถึงบทบาทของ Thai Green Label ในการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ โดย ดร.ถนอมลาภ รัชวัตร์ นักวิจัยอาวุโส ซึ่งระบุว่าผลิตภัณฑ์ที่มีตราสัญลักษณ์ Thai Green Label ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอกรณีศึกษาแนวทางธุรกิจที่ยั่งยืนจากลูกค้าเครือเซ็นทรัล เรสเตอรองส์ คุณวีร์ธิมา พัฒนไพสิฐ Purchasing Equipment Manager Central Restaurant Group Co.,Ltd. อาทิเช่น การลด food waste การจัดซื้อวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อชุมชนบริเวณโดยรอบแต่ละสาขา เป็นต้น

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นและเดินหน้าสานต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายที่จะได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์ Carbon Footprint Reduction (CFR) ในลำดับต่อไป ตามคำมั่นสัญญาของเรา “Better Care for A Better World” ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่โลกที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

จุฬาฯ ผนึกกำลังร่วมมือ ช่อง 7HD สร้างสรรค์สื่อเพื่อการศึกษาและสังคมยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จับมือ ช่อง 7HD สื่ออันดับ 1 ของประเทศ ต่อยอดสู่ความเป็นเลิศด้านการศึกษาผ่านสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคมยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ ช่อง 7HD ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านสื่อและการศึกษา โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเสริมสร้างโอกาสให้นิสิตและเยาวชนได้พัฒนาทักษะและแสดงศักยภาพผ่านการผลิตสื่อสร้างสรรค์ พร้อมผลักดันกิจกรรมหลากหลายที่ตอบสนองความต้องการของสังคมในยุคดิจิทัล

โดย ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณพัฒนพงค์ หนูพันธ์ กรรมการผู้จัดการ ช่อง 7HD ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ช่อง 7HD สร้างสรรค์สื่อเพื่อการศึกษาและสังคมยั่งยืน นอกจากนี้ยังร่วมเปิดมุมมองวิสัยทัศน์ผู้บริหาร หัวข้อ “Future Media Trend in the Era of AI” อีกด้วย ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะเตรียมความพร้อมให้นิสิตและเยาวชนสำหรับโลกยุคดิจิทัล ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของจุฬาฯ ในการพัฒนาสื่อที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนสังคม การทำงานร่วมกับช่อง 7HD ซึ่งเป็นผู้นำสื่ออันดับ 1 ที่อยู่คู่ประเทศไทยมายาวนาน จึงมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม และที่สำคัญคือมีอุดมการณ์ร่วมกันในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่อเยาวชนและสังคมจะช่วยให้นิสิตได้เรียนรู้และมีประสบการณ์จริง ในการผลิตและสร้างสรรค์สื่อที่มีคุณภาพ เป็นการขับเคลื่อนเพื่อสังคมที่ดีและยั่งยืน”

คุณพัฒนพงค์ หนูพันธ์ กรรมการผู้จัดการ ช่อง 7HD กล่าวว่า “เรายินดีมากที่ได้ร่วมงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การสนับสนุนเยาวชนเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นมาตลอด ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับเยาวชน ควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาสื่อที่มีคุณภาพ เปิดโอกาสให้นิสิตได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลิตสื่อในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมร่วมมือต่อยอดการพัฒนา AI ที่ฉลาดในการสื่อสาร เพื่อตอบโจทย์สังคมยุคปัญญาประดิษฐ์ให้เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน”

ซึ่งในปรากฏการณ์ความร่วมมืออันสำคัญในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับจากมืออาชีพและบุคลากรชั้นนำจากหลากหลายสาขา ทั้งคณะผู้บริหารจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้บริหาร ผู้ผลิตสื่อในแวดวงบันเทิง ดนตรี กีฬา และแฟชั่น ให้เกียรติมาร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในครั้งนี้กันอย่างคึกคัก อาทิ คุณไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน), คุณกิติกร เพ็ญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด, ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด,คุณจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย, คุณจิรัฐ บวรวัฒนะ CEO และ คุณณัฐพล บวรวัฒนะ CMO บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด, คุณศิริพิชญ์ วิมลโนช CEO บริษัท มากกว่าฝัน จำกัด, คุณภาคิณ ทองธีระโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออล บาย เบสท์ จำกัด พร้อมด้วยนักแสดงจากช่อง 7HD ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี, หลุยส์ เฮส, เจนนี่-ชยิสรา วัฒนะนาวิน รวมถึงนิสิตเก่าจุฬาฯ แก้ม-ญาณิศา ธีราธร, มันนี่-กิจจำนง จำนงกิจ และ 2 ผู้ประกาศข่าว อาย-ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร, บัวบูชา ปุณณนันท์ มาร่วมพิธีสำคัญครั้งนี้ด้วย

โดยความร่วมมือนี้ มุ่งเน้นการส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตสื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาคอนเทนต์ด้านข่าว บันเทิง ดนตรี กีฬา และแฟชั่น รวมถึงการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์การศึกษาในยุคใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ และช่อง 7HD นิสิตจะได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในวงการสื่อสารมวลชน ได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากอุตสาหกรรม และสร้างเครือข่ายสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะจำเป็น พร้อมทั้งสนับสนุนการศึกษาโดยบูรณาการทรัพยากรจากภาคการศึกษาและภาคธุรกิจ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของความเชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมสื่อ เพื่อยกระดับการศึกษาไทยให้มีคุณภาพด้วยสื่อสร้างสรรค์ และนำไปสู่การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

TWC เชิญบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ร่วมเวิร์คชอป Action Booster

TWC ขอเชิญบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไป ที่ต้องการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ แก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ช่วยให้กลับมามีวินัยในตัวเอง สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืน เข้าเวิร์คชอป Action Booster ขจัดนิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง” ให้สำเร็จ! ที่ “Life Lab Academy” จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2568

นายยาห์วายุ สดุดีปรีดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (The Way Communication) หรือ TWC และบริษัท แรปเชอร์ จำกัด (Rapture) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายคนพบว่าตัวเองมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ส่งผลทำให้ภารกิจหรืองานสำเสร็จลุล่วงได้ล่าช้าหรือทำไม่เสร็จ และหากผัดวันประกันพรุ่งจนเป็นนิสัย อาจส่งผลเสียต่อความสำเร็จในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ซึ่งหลายคนพยายปรับแก้แต่ยังไม่ประสบผล
เพื่อขจัดนิสัยที่ขัดขวางความก้าวหน้า “Life Lab Academy” จึงจัดเวิร์คชอป Action Booster ขจัดนิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง”ให้สำเร็จ! เพื่อพัฒนาตัวเองและขจัดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง โดยบริษัท เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (The Way Communication) และบริษัท แรปเชอร์ จำกัด (Rapture) ขอเชิญบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงบริษัท องค์กร ผู้ประกอบการ SME และบุคคลทั่วไปที่สนใจ เข้าเข้าเวิร์คชอป Action Booster ขจัดนิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง” ให้สำเร็จ! กับทาง Life Lab Academy ในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2568 เพียงท่านละ 999 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนเข้าอบรมได้แล้วที่ @lifelab หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 064 559 5989
ทั้งนี้ เวิร์คชอป Action Booster ขจัดนิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง” ให้สำเร็จ! ไม่เพียงช่วยเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างนิสัยใหม่ที่ดีขึ้นให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ที่คำนึงถึงการเติบโตของผลประกอบการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล หรือ ESG โดยเฉพาะมิติด้านสังคม (Social) ที่บริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรม เท่าเทียม พร้อมมุ่งพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานและการทำงานสู่ความสำเร็จ สอดรับกับนโยบายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนฯ ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึง ESG ช่วยให้ธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน

ด้าน “โค้ชวิวี่ วรดาภา ธิดาราพัชร์” ผู้เชี่ยวชาญจิตภาษาศาสตร์ และการสะกดจิต จาก Life Lab Academy กล่าวว่า Action Booster ขจัดนิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง”ให้สำเร็จ! จัดขึ้น เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 9 ปี Life Lab Academy โดยเวิร์คชอป Action Booster เป็นการแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งให้หายไป ผ่านกระบวนการทางจิตภาษาศาสตร์ และ NLP (Neuro-Linguistic Programming) ที่ให้ผู้เข้าร่วมเวิร์คชอปได้ลงมือปฏิบัติจริงในทันที ซึ่งกระบวนการ กิจกรรม และแนวคิดทั้งหมด ได้รับแรงบันดาลใจจากงานวิจัยปริญญาเอก สาขาอายุรโยคะ Yoga-Samskrutham University, Florida สหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์แห่งชีวิต และการใช้วิถีธรรมชาติสร้างความสำเร็จ โดยงานวิจัยนี้ ได้กล่าวถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขอาการผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งมักเป็นเหตุให้ทำงานกับเดดไลน์ หรือทำงานไม่สำเร็จตาม KPI ขององค์กร

ทั้งนี้ เวิร์คชอป Action Booster เหมาะสำหรับบริษัท ที่มีบริหารงานระดับ Middle Management ขึ้นไป รวมถึง ผู้ประกอบการ SME และผู้ที่สนใจในศาสตร์พัฒนาตัวเอง ในการเข้าสัมผัสประสบการณ์นวัตกรรมทาง NLP จิตภาษาศาสตร์​ และการสะกดจิต เพื่อปรับแก้นิสัยการผัดวันประกันพรุ่ง เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่มีวินัย กลายเป็นบุคคลคุณภาพ เต็มเปี่ยมด้วยความรับผิดชอบต่อชีวิตส่วนตัว ครอบครัว การทำงาน และองค์กร โดยบุคคลที่สนใจเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง หรือองค์กรที่ต้องการปลดล็อกศักยภาพพนักงานในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จอย่างยังยืน สามารถสมัครเข้า
ร่วมเวิร์คชอป Action Booster ได้ทันทีที่ @lifelab
หมายเลขโทรศัพท์ 064 559 5989 เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ผู้ช่วย รมต.วธ. จับมือผู้บริหารสายสีแดง เข้าสวัสดีปีใหม่ รมช.คมนาคม

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายกริช ธนิกุล กรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ากราบสวัสดีปีใหม่ และ ขอพรจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568

ณ ฟาร์มโคนมบ้านพุประดู่ (MMilk Dairy Farm)
ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เริ่มแล้ว!! เวทีการประกวดผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ปลุกปั้นนักออกแบบไทย

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เชิญชวนนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เข้าร่วมโครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 เพื่อร่วมนำเสนอผลงานศิลปหัถตกรรมไทยที่มีศักยภาพและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาศิลปหัตถกรรมไทยไปไกลระดับโลก ชิงเงินรางวัลพร้อมเงินสนับสนุนในการผลิตผลงานต้นแบบรวมมากกว่า 650,000 บาท ภายใต้แนวคิด “Innovative Heritage Craft: หัตถศิลป์ แห่งมรดกหัตถกรรม” ตั้งแต่บัดนี้ – 15  มกราคม 2568

ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย  เผยว่า ” โครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 ถือได้ว่าเป็นโครงการประกวด ฯ เพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ ได้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญ และค้นหาแนวทางในการสืบสานงานหัตถศิลป์ไว้ด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน นวัตศิลป์ร่วมสมัยผ่านการผสมผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์”

สำหรับในปี 2568 นี้ SACIT เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับโอกาสในการคัดเลือกและนำเสนอผลงานที่แสดงถึง การสืบสาน สร้างสรรค์ ส่งเสริม งานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับองค์ความรู้ในกิจกรรม SACIT Craft Lab เพื่อพัฒนารูปแบบผลงานประกวดสร้างสรรค์  สู่การเป็นผลงาน Masterpiece รวมถึงการเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ จนไปสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการค้าทั้งในประเทศและในระดับสากล โดย Creative Craft Coach  (นักสร้างสรรค์งานคราฟต์) ระดับประเทศและมากประสบการณ์ เพื่อชิงรางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศจะได้รับเงินสด 150,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัล

ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวด ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้ – 15 มกราคม 2568              ผ่านเว็บไซต์ www.sacit.or.th พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
ผ่านลิงค์ Google Form : https://forms.gle/fBgGAAFjhvxzpiiu8
หรือ ผ่านทางไปรษณีย์: สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)
เลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 13290
วงเล็บมุมซอง (I.CCA. 2025) 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.สุกานดา ถิ่นฐาน / คุณเปี่ยมพร ฉายศรี
(ผู้ประสานงานโครงการ) โทรศัพท์: 086 564 4666 / 088 931 5345  Email: contact.icca2025@gmail.com

Thailand Halal Assembly 2024

“Thailand Halal Assembly 2024” โชว์ศักยภาพฮาลาลไทยในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย

เมื่อโลกก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอล ทิศทางฮาลาลจะเป็นอย่างไร พร้อมค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและ เทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคตได้ กับงานฮาลาลที่ดีที่สุดในไทย “ #ThallandHalalAssembly2024 ” ภายใต้แนวคิด “Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs” หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาล ผ่านเทคโนโลยี ดิจิทัลสองเอไอ” หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย อีกทั้งช่วยให้ประเทศ ไทยได้ขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมอัลมีรอช กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน

รศ.ดร.วินัย ตะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน จัดงาน Thailand Halal Assembly 2024 กล่าวว่า # ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( #ศวฮ.) เป็น เจ้าภาพหลักในการจัดงาน “Thailand Halal Assembly 2024 ( #THA2024 )” การประชุมวิชาการด้าน วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมฮาลาลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ ความรู้ใหม่และนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกฮาลาล ให้กับมุสลิมด้วยกันเอง และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมที่มีความสนใจใน อุตสาหกรรมสาลาล โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs” หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาลผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสองเอไอ” ซึ่งปฏิเสรไม่ได้ว่าปัจจุบันโลกของเราก้าวสู่การ เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ #2AIs ที่ต้องการนำเสนอในงานครั้งนี้ได้แก่ เลโอที่ หนึ่ง คือ Actual Implementation ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานผ่านการอัพสกิล ฝึกปฏิบัติด้วยหนึ่งสมองสองมือในการ ทำงาน เช่น งานการมาตรฐานฮาลาล, การวางระบบ HAL-Q. งานห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล, งานพัฒนา นวัตกรรม, งานพัฒนาฐานข้อมูล H numbers, การตัดสินทางศาสนา (ฟุตวา) เพื่อให้มนุษย์หรือคนยังคงสภาพผู้นำ โดยมีเครื่องจักรและเอไอเป็นผู้ตาม และเอไอที่สอง คือ Artificial Intelligence โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อบริหาร จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ฮาลาล”

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ งาน IHSATEC (International Halal Science and Technology Conference) ครั้งที่ 11 และงาน HASIB (Halal Science, Industry and Business) งานประชุมวิชาการ ฮาลาลนานาชาติ ครั้งที่ 17 โดยมีหัวข้อการประชุมหลัก คือ “2 AIs for Thailand’s Halal Trust & Confidence” และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ สาสาลกับสุขภาพและความงาม, ฮาลาลกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม และ Halal Route Workshop ซึ่งทั้งสองงานประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดการประชุมระดับ นานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และธุรกิจฮาลาล โดยมีผู้เข้าร่วมจากมากกว่า 40 ประเทศ บทความวิชาการที่นำเสนอในการประชุม จะได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติ JHASIB หรือ Journal of Halal Science, Industry and Business ซึ่งจะเผยแพร่ปีละสองฉบับ เพื่อส่งเสริม งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สา ลาลในระดับสากล

รวมถึง โซน SMEs ฮาลาล การจัดแสดงศักยภาพผู้ประกอบการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ร่วม พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีพัฒนาการทั้งกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ และ การตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมนี้ ซึ่งได้รับการคัดเลือก จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะได้รับรางวัลนวัตกรรม SMEs ฮาลาล รวม 18 สถานประกอบการ จากผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น Suwirun Tea Shop Thailand Premium Organic Tea, Madi Kombucha, Vanapan Vegan Nail Care และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย และที่ห้ามพลาดกับ นิทรรศการ “Halal Trust Through Digital Technology 2AIs” ที่ผสานการนำไปปฏิบัติจริงกับปัญญาประดิษฐ์ (Al) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย เกิดความน่าเชื่อถือและเสริมสถานะ บนเวทีโลก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมี ประโยชน์ อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และธุรกิจ ฮาลาล ช่วยให้ประเทศไทยขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลจากมูลค่าปัจจุบัน 6.1 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ โดยไม่รวมการท่องเที่ยวฮาลาล ยา และโลจิสติกส์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนี้

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลและนวัตกรรมฮาลาล ค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจและเทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคต รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ ของงานเพิ่มเติมได้ที่ www.Thailandhalalassembly.com
Facebook: Thailand Halal Assembly
โทร. 02-218-0618 

ทีทอล์ค อ่านใจคนฟัง101 วิธีการเข้าใจคนให้คล่องก่อนการสื่อสาร

ดร.พงศ์พิพัฒน์ พงษ์ตน ประธานฝ่ายวิชาการ สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการบรรยายพิเศษ [ทีทอล์ค] ในหัวข้อ “อ่านใจคนฟัง 101 วิธีการเข้าใจคนให้คล่องก่อนการสื่อสาร”

โดย ดร.ธีร์ธวัช เจนวัชรรักษ์ ผู้ก่อตั้ง PRACT (Presentation Academy Thailand) สถาบันสอนทักษะการสื่อสาร การพูดในที่สาธารณะ และการนำเสนอ อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเร็วๆนี้ ที่สมาคม โดยมี ฐิติภูมิ จามิกรานนท์, กมลวัน บุณยัษฐิติ, ดร.ลาวัณย์ฉวี สุจริตตานนท์, ณัฐพัชร รัตนกนกวัฒน์, จันทิมา-ภาวิณี นะวิโรจน์, เอิร์ธ สายสว่าง และดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา เข้าร่วม

พม. บุก สยามสแควร์วัน เดินรณรงค์ ยุติความรุนแรง ต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” (ACT NOW to end Violence against Women and Girls) โดยมีนางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวง พม. กล่าวรายงาน และการนำเสนอสารจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว ซึ่งมีนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน อาทิ ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการสมรสคณะรัฐมนตรี คุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และที่ปรึกษาคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในการกีฬา คุณสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย คุณชวาลี โอสถานุเคราะห์ นายกสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ศิลปิน ดารา นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงาน ที่ลานอัฒจันทร์ ชั้น LG อาคาร Siam Square One

จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติสำหรับบุคลากร หน่วยงานที่สนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จำนวน 19 รางวัล และมอบประกาศนียบัตรสำหรับผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จำนวน 12 รางวัล เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจในการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมในการสนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ อีกทั้งแสดงเจตนารมณ์รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ร่วมกับผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และองค์กรระหว่างประเทศ นอกจากนี้ มีการเดินขบวนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567 การแสดง Flash mob “คำดีๆ มีให้กัน” จากวงดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินวง Getsunova

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว และปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) รวมถึงปัญหาวิกฤตประชากร ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวง พม. ได้ผลักดันและขับเคลื่อนนโยบาย 5 x 5 ฝ่าวิกฤตประชากร ซึ่งประกอบด้วย 5 ข้อเสนอ และ 5 มาตรการ เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ ทั่วถึง เป็นธรรม สำหรับการดำเนินการยุติความรุนแรง ได้ผลักดันนโยบายและมาตรการหลายด้าน เพื่อปกป้องและคุ้มครองทุกเพศ ทุกวัย โดยมุ่งเน้นที่การปรับเปลี่ยนฐานคิดและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ การเคารพในสิทธิ โดยเฉพาะสิทธิเนื้อตัวร่างกาย การยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย และเร่งสร้างการรับรู้ให้คนทุกกลุ่ม สามารถเข้าถึงสิทธิและประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียมกัน

กระทรวง พม. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัวมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สอดรับกับมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” ซึ่งในปี 2567 กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ฯ ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” (ACT NOW to end Violence against Women and Girls) นับเป็นความร่วมมือกันในการรณรงค์ยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อต้องการจะส่งสาร และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้ตระหนักรู้ว่า ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาระดับสังคม ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และนับเป็นหนึ่งภัยเงียบของสังคม ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถทิ้งรอยบาดแผล ทั้งทางร่างกายและจิตใจให้แก่ผู้ถูกกระทำโดยตรงแก่คนในครอบครัวของผู้ถูกกระทำ รวมถึงบุคคลและสังคมแวดล้อมก็ย่อมได้รับผลกระทบ

ในส่วนภูมิภาค สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน 2567 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย ไร้ความรุนแรง “ACT NOW” เริ่มได้ทันที เริ่มที่ตัวเรา โดยการ “ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว”ทุกรูปแบบ

กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งของความพยายามในการรณรงค์ยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพื่อที่จะร่วมกันผนึกกำลังในการยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนเดินฝ่าวิกฤตครั้งนี้ จับมือไปด้วยกันอย่างแน่วแน่ ร่วมสร้างความตระหนักรู้ กระตุ้นจิตสำนึกและความคิด และลงมือทำในทันที ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ขอขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับหน่วยงาน รวมถึงบุคลากรที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและใบประกาศนียบัตร ซึ่งร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวเสมอมา รวมทั้งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันแสดงพลังในวันนี้ ให้ทุก ๆ คนในสังคมได้ตระหนักร่วมกันในการสอดส่อง ดูแล และช่วยเหลือ เมื่อพบการกระทำความรุนแรง เพื่อให้สังคมมีความสงบสุข เข้มแข็ง และยั่งยืนตลอดไป

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือแอปพลิเคชันไลน์ @esshelpme

#สังคมไทยไร้รุนแรง #FamilyFirst #วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว #หยุดคุกคามทางเพศ #ฝึกอาชีพฟรี #เลี้ยงเดี่ยวไม่เดียวดาย #แตกต่างอย่างเท่าเทียม #DWF #สค.

📣 ติดตามข่าวสาร สค.ได้ที่
เว็บไซต์: https://www.dwf.go.th/
Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/sorkor026596776/
TikTok : https://www.tiktok.com/@dwf_tiktok?_t=8Zl3GRosGXq&_r=1
เพื่อนครอบครัว: http://www.xn--42ca5dfr6ac6azcd1c9c9f0e.com/
LINE Official : @linefamily
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCXtsy6w-fx3fkESr-C6UaAA

โฟลว์ อินเตอร์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Arcobräu จากประเทศเยอรมัน

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 : บริษัท โฟลว์ อินเตอร์ จำกัด จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เครื่องดื่มแบรนด์ดัง Arcobräu จากประเทศเยอรมัน โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Holger Fichtel (Breweries Director Arcobräu) บินตรงจากประเทศเยอรมัน มาร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย Mr. Martin terheiden, Klaus Puehmeyer, Katya Puehmeyer, คุณอัคค์สัจจา ก่อภพพัฒนพงศ์, คุณแอ-ภัทราริน ปัญญานุตธรรม, คุณภูเบศร์ คงสมบัติ เข้าร่วมงาน ท่ามกลางบรรยากาศของการเทสเครื่องดื่มชนิดใหม่อย่างเป็นกันเอง ณ ร้านพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ (เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ) Arcobräu ถือเป็นมรดกแห่งความเป็นเลิศของบาวาเรีย โดยการเปิดตัว Arcobräu ประเพณีและนวัตกรรมในโลกของการผลิตเบียร์ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานที่มีรากฐานมาจากงานฝีมือของบาวาเรีย Arcobräu ได้พัฒนาศิลปะการผลิตเบียร์มาหลายชั่วอายุคน โดยมีความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ด้านคุณภาพ โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ดีที่สุด และวิธีการต้มแบบดั้งเดิมเท่านั้น
Natur Radler ส่วนผสมที่เบา ๆ ให้ความสดชื่นของเลมอน มีกลิ่นหอม ปราศจากสารให้ความหวาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดื่มแบบเบาๆ การจับคู่อาหาร เช่น สลัด อาหารทะเล หรืออาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆ

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้อิ่มเอมไปกับซิกเนอร์เจอร์เมนูสไตล์เยอรมันมากมาย และเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีสดจาก บางเขี้ยว สวีสตี้พี ที่ร้านอาหาร Paulaner Garden ศรีนครินทร์

คุณกานต์พิชชา คงสมบัติ ประธานกรรมการ บริษัท โฟลว์ อินเตอร์ จำกัด ได้กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องดื่มArcobräu ทั้ง 5 ชนิดวันนี้ เป็นเครื่องดื่มจากประเทศเยอรมันทางตอนใต้ของเมืองมิวนิคที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากการที่เราได้เดินทางไปเทสด้วยตัวเอง ก็เลยคิดว่า Arcobräu จะเป็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางธุรกิจ เพิ่มยอดขายให้กับบริษัทของเราและยังเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนักดื่ม กระตุ้นยอดขายและเปิดตลาดเครื่องดื่มเยอรมันใหม่ คาดยอดขายเพิ่มขึ้น 10 % จากยอดขายปีที่แล้ว การจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ เราได้รับเกียรติอย่างสูงจาก Mr. Holger Fichtel (Breweries Director Arcobräu) เพื่อมาแนะนำ ให้ข้อมูลอย่างละเอียดในเรื่องของตัวเครื่องดื่ม และที่สำคัญ วันนี้ เราได้เชิญเอเจนต์ของเรามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับการดื่มด่ำความสุขกับเครื่องดื่มชนิดนี้ นอกจากที่เรามีเครื่องดื่มพอลลาเนอร์ เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีแล้ว ก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราได้เพิ่มเติมเครื่องดื่มดีๆเข้ามาทำตลาด และจากการที่ได้ทดลองดื่มแล้ว คิดว่า เครื่องดื่มทั้ง 5 ชนิดของ Arcobräu น่าจะเหมาะกับสำหรับคนไทย

1 Natur Radler ส่วนผสมที่เบา ๆ ให้ความสดชื่นของเลมอน มีกลิ่นหอม ปราศจากสารให้ความหวาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดื่มแบบเบาๆ การจับคู่อาหาร เช่น สลัด อาหารทะเล หรืออาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆ

2 Mooser Liesl บาวาเรีย Helles คลาสสิกที่ต้มด้วยมอลต์พิเศษและฮอปต์ธรรมชาติ เพลิดเพลินไปกับรสชาติต้นตำรับที่นุ่มนวล ดื่มด่ำควบคู่ไปกับอาหารเลิศรส ไม่ว่าจะเป็น ไก่ย่าง เพรตเซล หรือชีส เข้ากันได้อย่างลงตัว

3 Weissbier Hell เครื่องดื่มจากข้าวสาลีระดับพรีเมียมที่ได้รับรางวัลนี้ ให้กลิ่นผลไม้และกลิ่นหอม ด้วยยีสต์ชั้นดีเพื่อรสชาติที่ละเมียดละมัย เหมาะกับการรับประทานกับอาหาร ประเภท ไส้กรอก ผักย่าง หรือซอฟต์ชีส

4 Festbier เครื่องดื่มสไตล์ดั้งเดิมนี้ผลิตขึ้นสำหรับเทศกาลอ๊อกโทเบิลเฟสต์ เป็นการรวบรวมการเฉลิมฉลองของบาวาเรีย ด้วยมอลต์ที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมรับประทานง่าย ซึ่งสามารถรับประทานกับอาหารประเภท บราทวูร์สท์ และผักย่าง ได้เป็นอย่างดี

5 Winterbier เครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นสำหรับตามฤดูกาลพิเศษ มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมของฮอปส์อ่อนๆ เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในฤดูหนาวที่แสนสบาย การจับคู่อาหารประเภทเนื้อสัตว์ปิ้งย่าง

กระแสตอบรับที่ผ่านมาดีมากๆ ในช่วงแรกที่เรานำเข้า NaturRadler เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเบา ๆ ให้ความสดชื่น และมีกลิ่นหอมของเลมอน ดื่มแล้วสดชื่น ขายดีมากๆ ขายหมดอย่างรวดเร็ว และได้วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าแล้วเช่นกัน ซึ่งเครื่องดื่มใหม่ทั้ง 5 ชนิดนี้ ที่มีรสชาติที่แตกต่างกัน แต่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นเครื่องดื่มเบาๆ เย็นๆ เหมาะกับการเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึง Winter bier เครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นสำหรับตามฤดูกาลพิเศษ มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมของฮอปส์อ่อนๆ เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในฤดูหนาว ปลายปีที่แสนสบายในเมืองไทย ซึ่งเราจะจัดเทศกาล Winter Season ให้เข้ากับอากาศหนาวๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป และห้ามพลาด Fest bier เครื่องดื่มสไตล์ดั้งเดิมนี้ผลิตขึ้นสำหรับเทศกาลอ๊อกโทเบิลเฟสต์ เราก็นำเข้ามาแล้ว และแน่นอนใครที่มาที่ร้านอาหาร พอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ (เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ชอย 9 แยก 2) ห้ามพลาดชิม เมนูเด็ดสไตล์เยอรมันที่ขายดีของเรา เช่น ขาหมูเยอรมัน ไส้กรอก

ซึ่งปัจจุบัน Arcobräu มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า และ ซุปเปอร์มาเก็ต ทั่วไป Tops, Villa Market, The Mall, Siam Takashimayaหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Flow Inter Co., Ltd. โทร. 02-748-1900

ฝ่ายบริการลูกค้า 086-907-8811 หรือ Line :@flowinter
เพจ Paulaner Garden Restaurant เว็บไซต์ www.paulaner-garden.com