ลุฟท์ฮันซ่าฉลองครบรอบ 65 ปี แห่งการบินเชื่อมไทย-เยอรมนี

ในวันนี้ ลุฟท์ฮันซ่ามีความภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับอีกก้าวสำคัญของกลุ่มสายการบิน ในโอกาสครบรอบ 65 ปีของเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากฮัมบูร์กมายังกรุงเทพฯ ความสำเร็จอันยาวนานนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของสายการบินต่อตลาดไทยและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยช่วยเชื่อมโยงวัฒนธรรม ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างเยอรมนีและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 เที่ยวบินแรกของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าสู่ประเทศไทยได้ออกเดินทางจากเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ เที่ยวบิน LH640 ซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ Super Constellation ได้ออกเดินทางสู่ตะวันออกไกลจากเมืองฮัมบูร์ก ผ่านดัสเซลดอร์ฟแฟรงก์เฟิร์ต โรม ไคโร การาจี และกัลกัตตา ก่อนถึงประเทศไทย โดยการเดินทางครั้งนั้นใช้เวลาเกือบสองวัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สายการบินได้ขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย ปัจจุบัน ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการเที่ยวบินระหว่างยุโรปและประเทศไทยหลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยให้บริการที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบายแก่นักเดินทางผ่านฐานการบินที่มิวนิกและแฟรงก์เฟิร์ต นอกจากนี้ สายการบินของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่ายังมีเที่ยวบินเชื่อมต่อระหว่างไทยไทยกับยุโรปผ่านฐานการบินอื่น ๆ ทั้งในซูริกและเวียนนาอีกด้วย โดยมีเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและยุโรปสูงสุดถึง 31 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

คุณเฟลิเป้ บอนิฟาตติ รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและกิจการร่วมค้าในภูมิภาคตะวันออก กล่าวว่า“วาระครบรอบ 65 ปีในครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของเราในการบริการลูกค้าและเชื่อมโยงผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับเรา และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการของเราอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการฉลองความสำเร็จอันยาวนานของลุฟท์ฮันซ่าในประเทศไทยกว่าหกทศวรรษ ปัจจุบันเราให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยมากกว่ากลุ่มสายการบินในยุโรปอื่น ๆ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 ไปยังกรุงเทพฯ อีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว”

ความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ลุฟท์ฮันซ่าใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาบริการของสายการบิน ตั้งแต่การปรับปรุงยกระดับเครื่องบินให้ทันสมัยไปจนถึงการริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลุฟท์ฮันซ่ามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือชั้น มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และน่าประทับใจให้กับผู้โดยสารชาวไทยไปพร้อมกัน

ลุฟท์ฮันซ่ามีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้น่าประทับใจสำหรับผู้โดยสารทุกคน เพื่อรักษาความเป็นเลิศในการบริการบนน่านฟ้าต่อไปอีก 65 ปี

เที่ยวนครพนม ชมความงามริมโขง

ค้นพบมุมมองใหม่ของการพักผ่อนที่นครพนม เมืองแห่งความสุขนครพนมกันได้แล้ว ชมความงามริมโขง ชมธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด!! มาเที่ยว มาจุดเดียวเที่ยวได้หลายที่มนต์เสน่ห์ริมโขง นครพนม เมืองแห่งความสุขนครพนมกันได้แล้ว อากาศเย็นสบายกลางคืนยี่สิบกว่าองศาร้านค้า กาเฟ่ ร้านอาหาร เปิดใหม่ ถนนคนเดินของขายเพียบ บรรยากาศริมน้ำถ่ายรูปสนุกสนาน 

ครั้งนี้ทีม Vespa Travel มาเที่ยวจังหวัดนครพนม ที่มีเรื่องราวเชื่อและความศรัทธา สัมผัสพลังแห่งศรัทธาสักการะพระธาตุพนม ไหว้พระธาตุประจำจังหวัดและเป็นพระธาตุของคนที่เกิดวันอาทิตย์ ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมือง เป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน

-พญาศรีสัตตนาคราช อ.เมือง จ.นครพนม 
กราบสักการะ พญาศรีสัตตนาคราช ชมความงดงาม ลานศรีสัตตนาคราช ท่าเทียบเรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำโขง หน้าตลาดอินโดจีน ลานพญาศรีสัตตนาคราช

-หอนาฬิกาอนุสรน์ชาวเวียดนาม สร้างไว้ก่อนกลับเมืองเวียดนามถนนคนเดิน วงเวียนหอนาฬิกาสตรีทอาร์ต นครพนม บรรยากาศริมน้ำถ่ายรูปสนุกสนาน ลมพัดชิล ชิล  เดินต่อเที่ยวถนนคนเดิน ล่องเรือชมน้ำโขงขึ้นสูง ริมโขง นครพนม – เมืองท่าแขก ถนนคนเดินเปิด 5 โมงเย็น ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

-อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ และ หมู่บ้านเวียดนามที่นครพนมที่สร้างด้วยงบประมาณเวียดนามบ้านนาจอก จังหวัดนครพนมเป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในอดีตประธานโฮจิมินห์หรือที่คนละแวกนี้เรียกกันว่า 

“ลุงโฮ” เคยสร้างบ้านเรือนอยู่ที่นี่เพื่อหาแนวร่วมกลับไปกู้เอกราชให้กับประเทศเวียดนามจากเหตุการณ์สำคัญในครั้งนั้นทางรัฐบาลเวียดนามได้มอบเงินจำนวน 3 หมื่นล้านด่อง (ประมาณ 45 ล้านบาท) เมื่อปี 2557 ให้จังหวัดนครพนมและสมาคมไทยเวียดนาม เพื่อสร้าง “อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์” บนเนื้อที่ 7 ไร่ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประธานโฮจิมินห์ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2559

-นั่งจิบกาแฟ ชมวิวริมโขง ร้านกาแฟที่ต้องมา 76A The Space  ริมโขง เครื่องดื่มเน้นกาแฟ Specialty คั่วอ่อน และเครื่องดื่มแบบ non-coffee ให้เลือกหลา ยเมนู ให้ทานคู่กับครัวซอง สโคนและชีสทาร์ต

ทริปนี้นอนที่ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงและถนนสายวัฒนธรรมหลัก โรงแรมติดแม่น้ำโขง ภายในต้วห้องพักสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงได้อย่างชัดเจน ใกล้ถนน คนเดิน ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ 4ดาว ห้องพักจำนวน 122 ห้อง สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้ทุกห้อง ที่นอนนุ่มสบายมากๆ มีสิ่งของอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง สระว่ายน้ำส่วนกลาง และห้องฟิตเนส สามารถมองเห็นฝั่งลาว

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์ วิว นครพนม เป็นโรงแรมในจังหวัดนครพนม มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สวยงามสมบูรณ์แบบกับบรรยากาศติดริมแม่น้ำโขง สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ให้ความเป็นส่วนตัว ทัศนียภาพแบบพาโนรามาวิว ที่สวยงามสุดบรรยาย กับท้องฟ้า ภูเขา สายน้ำ ที่ได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ อากาศ บริสุทธิ์ เงียบสงบ มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมสองประเทศของประเทศไทย-ลาวแบบใกล้ชิด

ในช่วงเช้าของวัน จากห้องพักได้พบกับวิถีชุมชนชาวนครพนมที่มายกยอกันอยู่ริมน้ำโขง แสงสะท้อนจากอาทิตย์ยามเช้ากับบรรยากาศที่ชวนมองทำให้เพลิดเพลินจำเริญใจดีแท้ ต้องไม่พลาดเดินลงมาจากห้องพัก ทานอาหารเช้าก็ออกมาเดินเล่นเก็บภาพงดงามนี้ได้ ทุกห้องพักคุณจะได้เห็นวิวสวยๆของแม่น้ำโขงกับพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างชัดเจน

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม เหมาะสำหรับนักธุรกิจนักท่องเที่ยวนักเดินทาง ครอบครัวคู่รักหรือกลุ่มองค์กร เรียกว่าเหมาะกับทุกกลุ่มทุกเพศวัยที่ต้องการความสะดวกสบาย ในเรื่องของการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับการจัดกิจกรรมประชุมสัมมนา หรือฮันนีมูน

การเดินทางสะดวกสบาย เพียง 20 นาที จากสนามบิน หรือจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3  โรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 122 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทุกห้องพักปูพรมนุ่มๆสบาย Free Wi-Fi , LED. TV , มินิบาร์, อ่างอาบในตัวพร้อมฝักบัว และมีเครื่องใช้ในห้องน้ำฟรี ที่พลาดไม่ได้

สำหรับคนรักษ์สุขภาพมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ติดกับโรงแรม สามารถออกไปวิ่งออกกำลังกายในยามเช้าๆริมโขง อย่างมีความสุข ในส่วนของห้องอาหาร มีทั้งอาหารไทย อาหารท้องถิ่น และอาหารนานาชาติ ไว้บริการคุณได้อิ่มอร่อยพร้อมรับความประทับใจ

และเมื่อถึงยามเย็นย่ำค่ำคืน ถนนคนเดินนครพนมก็ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเที่ยวที่ไม่ควรพลาด มีร้านรวงจำหน่ายเสื้อผ้า อาหารการกินเอาไว้บริการมากมาย รวมถึงบริเวณลานเอนกประสงค์

สนใจจองห้องพัก ที่ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม 
โทร 042 522 334

Line OA : @fortunehotelgroup https://lin.ee/Bj1vy7p

การเดินทางด้วยการสนับสนุนจาก Ford Everest 2024 ทำให้ทีมงานมั่นใจทุกเส้นทางออฟโรดด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-timeสะดวก สบายพร้อมเทคโนโลยีครบครัน! โดยระบบเครื่องเสียงและการเชื่อมต่อ

*  หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว

*  รองรับ WirelessApple CarPlay®และ Android AutoTM

*  ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ ระบบ SYNC® 4A

*  ระบบ FordPass Connect

*  ช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง

*  ลำโพง 8 ตำแหน่ง

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
https://ford.to/3p17e9X

ขอบคุณที่พักสุดชิล : Fortune River View Hotel Nakhon Phanom โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม

ขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง :รถยนต์ Ford Everest ฟอร์ด เอเวอเรสต์

#fordeverest #Ford  #FordEverest #Everest
#toptotravel #wefiethailand
#โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิวนครพนม
#สตรีทอาร์ตนครพนม

แถลงข่าวการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น . สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม , สมาคมท่องเที่ยว จ.นครปฐม ชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ. นครปฐม ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครปฐม และสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แถลงข่าวการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพ และกระจายรายได้สู่ชุมชน ประกอบด้วย นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ร่วมงาน โดยมีนางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว นำคณะสื่อมวลชนร่วมงาน ซึ่งการแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นี้ ณ สนามกอล์ฟ ไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

งานเริ่มขึ้นโดยการแสดงชุดพิเศษ จากศูนย์วัฒนธรรมไทดำ บ้านไผ่หูช้าง

นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของหลายองค์กร เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างแท้จริง ซึ่งจังหวัดนครปฐมประกอบด้วย 7 อำเภอ กิจกรรมนี้ถือเป็นการนำร่องซึ่งสนามกอล์ฟ ฯ แห่งนี้นอกจากใกล้กรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการออกแบบอย่างสวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ และมีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับโลกและพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมอบของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยได้รับการสนับสนุนจากทางสนามกอล์ฟและจากองค์กรต่างๆ

ด้านนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่สำเร็จในการขยายโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ไม่ใช่แค่เรื่องกอล์ฟ แต่สำหรับทุกภาคส่วน นครปฐมมี 7 อำเภอ เราทุกภาคส่วนจะหาทางช่วยเหลือว่าทำอย่างไร จึงจะให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เป้าหมายของเราต่อไป เราจะเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนและขยายโครงการต่างๆ เพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จะมีการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในแบบการพักค้างคืน อาจจะแบบมาเที่ยว 2 วัน 1 คืน โดยมีการเข้ามาเที่ยว มาพักและมาทานอาหารตามสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการตลาด ด้านการท่องเที่ยว ด้านวัฒนธรรม

ขณะที่นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม กล่าวว่า ทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมในการเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในจังหวัด ซึ่งเอสเอ็มอี ในจังหวัด มีผลิตภัณฑ์ มีร้านอาหาร และสินค้าต่างๆ เรามีสินค้าแบรนด์ระดับประเทศ มีแบรนด์วีแกน และยังมีเอสเอ็มอี อีกหลายพันรายที่ ที่ต้องการการสนับสนุนเพื่อเชื่อมโยงในการสร้างสิ่งใหม่ๆ แก่ชุมชน

นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กล่าวว่า สนามกอล์ฟ ฯ มีความยินดีในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง
ซึ่งต้องบอกว่า เอสเอ็มอี เป็นเสาหลักของประเทศจริงๆ การก่อร่างสร้างตัวประเทศที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งได้ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ส่วนหนึ่งมาจากเอสเอ็มอีที่มีความมั่นคง ผมดีใจที่เอกชนมาช่วยกันเรื่องนี้ ก็ให้กำลังใจ เรารับรู้กันอยู่แล้วว่า ถ้าหากรัฐบาลไม่ได้หันหน้ามามอง จะเหนื่อยมากๆ แต่ผมจะเป็นกำลังใจให้ ร้านค้าต่างๆ ของตำบล อำเภอ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่วันนี้เราได้เห็นแล้วว่า ได้มีองค์กรที่มาช่วยกันดันเอสเอ็มอี ในชุมชนต่างๆของจังหวัดนครปฐมขึ้นมา เรายืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า พร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ นี้อย่างเต็มที่และจะสนับสนุนไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ในจังหวัดอีกด้วย

ด้านนาง วรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมดีดีที่จะส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาได้ สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นสนามกอล์ฟตัวอย่างที่เป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬากอล์ฟระดับโลกที่เข้ามาแข่งขันแล้ว และมีความพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว

การแข่งขันกอล์ฟครั้งที่ 1 เปิดรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่น ทีมละ 5 ท่านดวลวงสวิง โดยมีค่าสมัครทีมละ 15,000 บาทเพื่อหาทีมชนะเลิศชิงถ้วยรางวัลจาก พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง สมาชิกวุฒิสภาซึ่งแบ่งประเภทรางวัลและรางวัลพิเศษดังนี้ ถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม 1 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ GROSS SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ NET SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลบู้บี้ 1รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ 1รางวัล จากคุณประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ผู้บริหาร สนามกอล์ฟไดนาสตี้ฯ เป็นบัตรรับประทานอาหารฟรี ในวันธรรมดาจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ4 ท่าน มูลค่ารวมเป็นเงิน 5,600 บาท พร้อมด้วยรางวัลจากผู้ให้การสนับสนุนอีกมากมาย การแข่งขันในครั้งนี้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งรายได้จากการจัดการแข่งขันส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้กับผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ตามความเหมาะสมต่อไป

ภายหลังจากการแถลงข่าว การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 ทางชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ยังได้นำคณะสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการ ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นครปฐม ซึ่งเปิดอบรมหลักสูตรนวดวัดโพธิ์และบริการนวดแผนโบราณต้นตำรับวัดโพธิ์ โดยมีคุณเสรัชร์ ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารให้การต้อนรับ

กรมการท่องเที่ยวประกาศ 14 ต้นแบบที่พักเพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

กรมการท่องเที่ยวขอแสดงความยินดี 14 ที่พักต้นแบบเพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmentally Friendly Tourism Accommodation) ประจำปี 2567 เตรียมต่อยอดสร้างจุดขายที่พักรักษ์โลก เสริมสร้างศักยภาพให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวมีแนวทางส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการที่พักที่ได้รับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ให้มีองค์ความรู้การจัดการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน การสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมการจัดการรักษ์โลก โดยจัดอบรมให้ความรู้และตรวจประเมินตามหลักเกณฑ์คุณภาพที่พักเพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์จะได้พัฒนาขึ้นสู่การเป็น “ต้นแบบที่พักเพื่อการท่องเที่ยว
ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ตามแนวทาง BCG Model เช่น การจัดการขยะของเสียอย่างเป็นระบบ การนำกลับมาใช้ซ้ำ การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดปริมาณขยะ ลดต้นทุนในการจัดการ และสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย การใช้บรรจุภัณฑ์อาหารจากวัสดุธรรมชาติ การใช้พลังงานหมุนเวียน การออกแบบที่พักเพื่อลดการใช้พลังงาน เป็นต้น

โอกาสนี้ กรมการท่องเที่ยวขอแสดงความยินดีกับสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน และประกาศผลต้นแบบที่พักเพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2567 จำนวน 14 แห่ง ดังนี้

  1. โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพ กรุงเทพมหานคร
  2. โรงแรม พูลแมน กรุงเทพ คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร
  3. สยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา จังหวัดชลบุรี
  4. โรงแรมโอโซ่ นอร์ธ พัทยา จังหวัดชลบุรี
  5. โรงแรม เดอะ เบย์วิว พัทยา จังหวัดชลบุรี
  6. โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี
  7. โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา จังหวัดชลบุรี
  8. โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี
  9. โรงแรมปกาสัย รีสอร์ท จังหวัดกระบี่
  10. โรงแรม ดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่
  11. โรงแรมโคซี่ กระบี่ อ่าวนาง บีช จังหวัดกระบี่
  12. โรงแรมเรด จินเจอร์ ชิค รีสอร์ท จังหวัดกระบี่
  13. โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต
  14. โรงแรม คาลิมา รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันกรมการท่องเที่ยวได้ดำเนินการส่งเสริมและต่อยอดสถานประกอบการด้านที่พักที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ให้เป็นต้นแบบที่พักเพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 34 แห่ง และมีแผนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี เป็นการตอกย้ำทิศทางการทำงานของกรมการท่องเที่ยว ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความหลากหลาย ภายใต้การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและสร้างความยั่งยืน

ฟุตบอลการกุศล ทีมรวมดารา VS ทีมวีไอพีทรงธรรม

กิจกรรมเพื่อมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนใน ต.ทรงธรรม จ.กำแพงเพชร ทริปนี้ทีมงานชวน… ปักหมุด … บ้านที่อบอุ่น กาแฟกลิ่นไอดิน Café & Restaurant  ร่วมกิจกรรม การแข่งขันฟุตบอลทรงธรรมคัพ ครั้งที่ 3 การแข่งขันฟุตบอลการกุศลระหว่างทีม วีไอพีทรงธรรมกับวีไอพีรวมดาราจากกรุงเทพฯ ที่จังหวัดกำแพงเพชร เราคงไม่ได้รู้จักกับร้าน กาแฟกลิ่นไอดิน คาฟ่ & เรสเตอรองท์ ที่อบอวลไปด้วยความรักแห่งนี้ …จากถนนใหญ่เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 1 ข้างอนามัยบ้านใหม่ ตำบลท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร สถานที่ตั้งของร้าน กาแฟกลิ่นไอดิน Earthy Coffee  ปัจจุบันมีทั้งกาแฟสดหอมละมุนและซุ้มบริการอาหารในบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ งานนี้ได้รับการต้อนรับจากเจ้าของ เป็นอย่างดี นั่นก็คือ พี่โอ๋ เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ  เจ้าของร้าน เป็นคนกำแพงเพชร และครอบครัว จัดเตรียมอาหาร เมนูแนะนำ ให้เราได้อิ่มท้องทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น

พี่โอ๋ เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ

ด้วยความที่ โอ๋ เสฏฐวุฒิ นิธิโชค ชื่นชอบฟุตบอล และยังเป็นหนึ่งในโต้โผสำหรับในการร่วมจัดกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ณ สนาม โรงเรียนสหวิทยาคม ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันก่อน ซึ่งจัดโดย ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.ทรงธรรม ณ สนามฟุตบอล โรงเรียนสหวิทยาคม ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.ทรงธรรม จัดการแข่งขันฟุตบอลการกุศล ทีมรวมดารา VS ทีมวีไอพีทรงธรรม

โดยทีมรวมดาราประกอบไปด้วย ปราโมทย์ แสงศร, ต๊ะ บีมิกซ์ , คิง ก่อนบ่ายฯ, ฝอยทอง เชิญยิ้ม, หรูหรา, ตะวัน และพราดร ณ นคร พิธีกรรายการเที่ยวเป็น Travel Intrend ส่วนทีมวีไอพีทรงธรรมนำโดย นายก อบต เอื้อมพร นอกจากนี้ยังมี นายอิทธิพล มามีเกตุ(พี่จูน) สุดยอดนักพากษ์การ์ตูน มาเป็นผู้บรรยายการแข่นขัน ผลการแข่งขันทีมรวมดาราเอาชนะทีมวีไอพีทรงธรรมด้วยการดวลจุดโทษ และปิดท้ายด้วยการมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนใน ต.ทรงธรรม จ.กำแพงเพชร เป็นการรวมตัวของบรรดากลุ่มเพื่อนๆ ทีมศิลปิน ดารา พิธีกร ไม่ว่าจะเป็น ปราโมทย์ แสงศร , ต๊ะ บีมิกซ์ , คิง ก่อนบ่ายฯ , ฝอยทอง เชิญยิ้ม , หรูหรา , ตะวัน และพราดร ณ นคร พิธีกรรายการ เที่ยวเป็น Travel Intrend ที่นำทีมเพื่อนศิลปินมาร่วมกันเตะฟุตบอลกระชับมิตร ซึ่งเป็นการกุศลที่มอบอุปกรณ์กีฬากับทีมอาวุโส ทรงธรรม 

ใครแวะมาเที่ยวกำแพงเพชรลองมาแวะที่  ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด มาเยือนมาสัมผัสกับความอบอุ่นของร้านแห่งนี้กัน วันหนึ่งคงจะเห็นสนามฟุตบอล สนามกีฬาสำหรับเยาวชนในละแวกนี้ การกลับมาบ้านเกิดของครอบครัวนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบริบทของคนที่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในเมือง และพร้อมแล้วที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดด้วยหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่ … เพื่อเยาวชนและชุมชนของตนเอง

ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน Earthy Coffee
ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
เบอร์โทร 083 295 5431 , 0909165428

ร้านอยู่ ซอยสุขุมวิท1 ข้างอนามัยบ้านใหม่
พิกัด https://goo.gl/maps/2yzv7sAVmDEjcEmaA

#คาเฟ่กำแพงเพชร
#ร้านอาหารกำแพงเพชร
#kamphaengphet

เซ็น กรุ๊ป สยายปีกรับเทรนด์ผู้บริโภค ดันแบรนด์ไทยบุกตลาดโลกปูพรมสร้างฐานทัพเอเชียแข็งแกร่งต่อเนื่อง

เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอาหารชั้นนำของประเทศไทย ตอกย้ำศักยภาพของแบรนด์ไทยในเครือ สร้างการเติบโตแบบต่อเนื่อง เตรียมรับเทรนด์ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกที่ชื่นชอบอาหารไทย นำร่องสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเอเชีย ปักหมุด ญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย และฟิลิปปินส์แล้ว คาดธุรกิจโตและมีแผนขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง รวมถึงการขยายไปยัง Segment ใหม่ ที่มีโอกาสเติบโตสูง

คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “อาหารไทยได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก เพราะมีความหลากหลายและรสชาติที่จัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมนูกระเพรา ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ดีที่สุดของไทย และมักถูกยกให้เป็นเมนูที่ต้องลองเมื่อมาที่ประเทศไทย จุดนี้ได้เพิ่มโอกาสทางธุรกิจของร้านอาหารไทยในเครือของเราเป็นอย่างมาก พร้อมผลักดันบุกตลาดโลกแบบเต็มสูบ เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกได้ลิ้มรสชาติอาหารไทยแท้ ๆ และยังมุ่งสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเอเชียให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นที่แบรนด์เขียง เมื่อต้นปีเปิดที่โอซาก้า ญี่ปุ่น 1 สาขา, มาเลเซีย 2 สาขา และลาว 1 สาขา โดยช่วง Q4 มีแผนเปิดเพิ่มที่ลาวอีก 2 สาขา, ฟิลิปปินส์ 2 สาขา และมาเลเซีย 1สาขา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของแบรนด์ รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน จนได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ”

ไฮไลท์สำคัญต่อมาคือการปั้นแบรนด์ ‘หมูกระทะตำมั่ว’ ลงสนามชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดปิ้งย่างที่มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้ว 3 สาขา เน้นไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยสาขาแรกปักหมุด โลตัสคลองหลวง, สาขา 2 บิ๊กซี สะพานควาย และสาขา 3 โรบินสัน เพชรบุรี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ชอบความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย เริ่มต้นเพียง 199 บาท วัตถุดิบคุณภาพ แถมเติมผักได้ไม่อั้น คาดแบรนด์เติบโตต่อเนื่อง และสร้างความคึกคักให้ตลาดปิ้งย่าง

อย่างไรก็ตามแบรนด์ไทยยังคงให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในประเทศไทยด้วยไม่แพ้กัน โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีเปิดลาวญวน 3 สาขา (สาขาลงทุนเอง), เขียงแฟรนไชส์ 1 สาขา, ตำมั่วแฟรนไชน์ 1 สาขาแล้ว และใน Q4 มีแผนเตรียมเปิดเพิ่มแฟรนไชส์ในประเทศเพิ่ม คือแบรนด์ลาวญวน 3 สาขา และตำมั่ว 4 สาขา นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดเดอตำมั่ว สาขาที่เป็นลงทุนเองอีก 2 สาขา ภายในสิ้นปีนี้

ส่วนของกลยุทธ์การตลาดที่จะกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี
-ตำมั่ว ต่อยอดแคมเปญ ‘มาเฟียส้มตำ’ สร้างประสบการณ์ใหม่ ด้วยการออกเมนู “ตำเด็กเส้น” รวบรวมเมนูตำเส้นต่าง ๆ การันตีรสชาติอร่อย จัดจ้าน
-ลาวญวน สร้างประสบการณ์กับเมนูญวนใหม่ ๆ พร้อมคัดสรรวัตถุดิบและการถ่ายทอดเรื่องราวที่ผสมผสานความแตกต่างทางอาหารได้อย่างลงตัว ทั้งเมนู ‘ปากหม้อญวนกรอบ’ และอีกเมนูที่ห้ามพลาดคือ ‘ก๋วยเตี๋ยวญวน’ ที่กำลังจะเปิดตัวออกมาให้ได้ลิ้มลองกัน
-เขียง ครีเอทเมนูกะเพรารูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร สัมผัสความอร่อยจากวัตถุดิบที่คุ้นเคย นำมารังสรรค์กับเมนูซิกเนเจอร์กะเพราของร้าน เตรียมพบเซอร์ไพรส์ได้เร็ว ๆ นี้

“ทั้งนี้แบรนด์ไทยของเราทุกแบรนด์ยังคงเน้นย้ำเรื่องการสร้าง Brand Awareness และตั้งเป้ารักษา Brand Love ด้วยคุณภาพอาหารและการบริการ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการ collaboration กับแบรนด์ที่มีความน่าสนใจ, การสร้างสรรค์เมนูใหม่ และการออกโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดตลอดทั้งปี เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรงควบคู่ไปกับกลยุทธ์การขยายไปต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะมีแผนการขยายไปประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน” คุณศิรุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานมอบรางวัล “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก”

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล “ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ” รางวัลสร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม ครั้งที่ 36 ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์

เมื่อเร็วนี้ๆ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล “ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ” รางวัลสร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม ครั้งที่ 36 ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี และเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก โดยมีหน่วยราชการต่าง ๆ และองค์การสาธารณกุศลจำนวนมาก ร่วมจัดงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ฯลฯ งานนี้จัดโดยมูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมีคุณหญิงแสงเดือน ณ นคร เป็นประธานมูลนิธิฯ ม.ร.ว.พร้อมฉัตร สว้สดิวัตน์ เป็นที่ปรึกษามูลนิธิฯ อารยา อรุณานนท์ชัย ผศ.ดร.พรทิพย์ พุกผาสุก เป็นรองประธาน สาวิตรี บริพัตร ฯ เป็นเลขาธิการ โดยมีผู้ร่วมงานจำนวนมาก อาทิ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อรรษิษฐ์- จิณณารัชต์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย-นายกสมาคมคมแม่บ้านมหาดไทย และ สุดฤทัย เลิศเกษม และผู้แทนองค์กรต่างๆที่หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ริเริ่ม หรือเป็นประธานก่อตั้ง เมื่อกว่า 40 ปี ที่แล้ว รวมทั้งม.ร.ว.ปรักายฉัตร สุขสวัสดิ์ และศรีภพ สารสาส นัดดาในพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร -หม่อมงามจิตต์ ฯ ฯลฯ



รางวัล “ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” เป็นรางวัลสร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม ที่มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดมอบให้แก่บุคคลสาขาอาชีพต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเชิดชูเกียรติ และรำลึกในความสามารถ ในคุณความดีของหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ที่มีผลงานเป็นคุณประโยชน์แก่สังคมจนเป็นที่ยกย่องยอมรับทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และเพื่อเป็น การยกย่องบำรุงขวัญให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับคัดเลือกเข้ารับรางวัล “ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ” ทั่วประเทศที่มีความตั้งใจจริง เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ภารกิจต่าง ๆ ที่รับผิดชอบด้วยจิตใจที่เปี่ยมล้น ด้วยคุณธรรมอันประเสริฐ อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้บุคคลเหล่านั้น เกิดความภาคภูมิใจในอาชีพการงานของตน และเป็นแรงจูงใจ เป็นตัวอย่างแก่เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน บุคคลทั่วไป รวมทั้งอนุชนรุ่นหลังที่จะมุ่งมั่นปฏิบัติงานให้มีคุณภาพและมีคุณธรรมยิ่งขึ้น อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเยาวชน สังคม และประเทศชาติ โดยส่วนรวมด้วย

หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ใน พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ได้รับการประกาศยกย่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในรอบ 100 ปี ชาตกาล ในปี 2558 ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นด้านสังคมสงเคราะห์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาชุมชน และการศึกษาด้านวัฒนธรรม เนื่องด้วยได้ประกอบคุณงามความดีเป็นอเนกประการ แก่ประเทศชาติและชาวโลก เป็นคนไทยคนเดียว และคนเอเชียคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ประธานสภาสตรีระหว่างประเทศ (สภาสตรีโลก) ในรอบ 136 ปี (ณ ปี 2567) อีกทั้งเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติของนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาสังคมผู้เสียสละ เป็นผู้นำสตรีที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ริเริ่มงานระดับชาติจำนวนมาก ตั้งแต่ 63 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นงานสาธารณกุศลที่ส่งเสริมสนับสนุนงานของรัฐบาล ซึ่งงานเหล่านั้นยังจำเป็น และมีคุณค่ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งยังดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยคุณประโยชน์ในการพัฒนาคน สังคม และประเทศชาติจนถึงทุกวันนี้

รางวัล “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ประจำปี 2567
มอบให้แก่ผู้ได้รับการคัดเลือกประเภทต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวม 139 คน ดังนี้ 
  1. ประเภท ประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนเยาวชนประจำจังหวัด (ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด) จำนวน 10 คน
  2. ประเภท ผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่นแก่ประชาชนและสังคม จำนวน 44 คน กล่าวคือ
    – ตำรวจจราจร จำนวน 10 นาย (คัดเลือกจาก 3,200 นาย)
    – พนักงานกวาดถนน จำนวน 6 คน (คัดเลือกจาก 35 เขต)
    – พนักงานขับรถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 10 คน (คัดเลือกจาก 1,000 คน)
    – ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 10 คน (คัดเลือกจาก พร. และ ERT จำนวน 600,000 คน)
    – พลเมืองดีและ จิตอาสาดีเด่น จำนวน 8 คน
    (คัดเลือกจากประชาชนทั่วไป 16 คน)
  3. ประเภท อาจารย์ระดับอุดมศึกษาผู้ทรงคุณธรรมมีผลงานดีเด่น ในการพัฒนาคุณธรรม และจริยธรรมของนิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 7 คน จากสถานศึกษาทั่วประเทศ ด้วยความร่วมมือของ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน แห่งประเทศไทยฯ ในการคัดเลือก
  4. ประเภท ครู หรือ เจ้าหน้าที่ ผู้รับผิดชอบดูแลการศึกษาของเยาวชนผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ ของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ ด้วยเมตตาจิตที่คู่ควรแก่การยกย่อง จำนวน 57 คน จาก 41 จังหวัด
  5. ประเภท คนพิการดีเด่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จำนวน 7 คน (คัดเลือกจาก 195 คน)
  6. ประเภท หมู่บ้านหัตถกรรมดีเด่น จำนวน 12 หมู่บ้าน (คัดเลือกจากหมู่บ้านทั่วประเทศ 36 หมู่บ้าน) และผู้นำหมู่บ้านหัตถกรรมดีเด่น จำนวน 2 คน

สำหรับผู้ได้รับรางวัล “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร” บุคคลสำคัญของโลก ในจังหวัดต่างๆ ประเภทครู-อาจารย์ที่ดูแลเยาวชนรับทุนมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ มูลนิธิฯ ได้เชิญให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น เป็นผู้มอบรางวัล ต่อไป เพื่อไม่เป็นภาระในการเดินทางของผู้ได้รับรางวัล

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด  เอิร์ธ สายสว่าง

เป็นอีกวันแห่งความอบอุ่นและปลาบปลื้มในโอกาส ร่วมฉลอง Birthday celebration ให้กับ เอิร์ธ สายสว่าง Professional PR เป็นที่ปรึกษาดูแลและภารกิจ มากมาย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ณ ร้านอำแดงไต้ฝุ่น

โดยมีเพลงอวยพรวันเกิดจาก ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ (คุณใหญ่)
(เจ้าของร้านอำแดงไต้ฝุ่น)ประจำปี 2566 สุดอบอุ่นท่ามกลางเพื่อนๆ โดยมีศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดังในวงการมากมายอวยพรอย่างเป็นกันเอง พร้อม มอบให้เจ้าของวันเกิดคุณเอิร์ธ สายสว่าง ที่ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีด้วยความสุขกายและสุขใจ สุขภาพแข็งแรง เป็นที่รักของทุกๆ คนตลอดไป

ปิดท้ายความสนุกสนามของงานนี้ ที่ร้านอำแดงไต้ฝุ่น by The River เน้นเมนูอาหารไทย-จีนสูตรตำรับโบราณเป็นแนวคิดดั้งเดิมร้านบรรยากาศดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ภายในโครงการบางกอกสแควร์ถนนพระราม 3 โดยปัจจุบันได้รับการการันตีเรื่องความอร่อยเด็ดจาก Michelin Guide ประเภท The Plate ถึง 2 ปีซ้อน (2020 และ 2021)

อำแดงไต้ฝุ่น By the River
ให้บริการทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
สำรองที่นั่ง โทร. 095 716 4712
Line: Amdangtyphoon
Instagram: amdangtyphoon
เส้นทาง: https://shorturl.asia/jZXaC

ห้องสมุดมารวยจัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี

ตลอดระยะเวลา 20 ปี นับจากวันที่ 18 ตุลาคม 2547 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิด “ห้องสมุดมารวย” เพื่อให้เป็นห้องสมุดเฉพาะทางด้านตลาดทุนครบวงจรของผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน ผู้ลงทุน และประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิด “ห้องสมุดมีชีวิต” ที่มีการเชื่อมต่อข้อมูลความรู้ในทุกมิติของการเงินการลงทุนพร้อมกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ไว้อย่างครบครัน

โดยในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ห้องสมุดมารวยจัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี โดยมีศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดงาน และจัดกิจกรรมเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ “ชีวิตติดการอ่าน : We are Readaholics” โดยวิทยากรร่วมเสวนาในโอกาสพิเศษนี้ ได้แก่ เฌอปราง อารีย์กุล ผู้จัดการวง BNK 48 และนริศพงศ์ รักวัฒนานนท์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2566 ดำเนินรายการโดยจิรัฐิติ ขันติพะโล และห้องสมุดมารวยยังได้จัดมุมหนังสือใหม่ ชื่อ “Sustainability for Life” ที่รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนอย่างครบครัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงได้ง่ายในที่เดียว

ห้องสมุดมารวยยังได้จัดแสดงนิทรรศการ 20 ปี ห้องสมุดมารวยและนิทรรศการ 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดให้เข้าชมและใช้บริการห้องสมุดได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00-19:00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก พร้อมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารของห้องสมุดได้ที่ www.maruey.com

ติดตามข่าว ข่าววันนี้ การเมือง สังคม ธุรกิจ เศรษฐกิจ ตลาดหุ้น สิ่งแวดล้อม ไลฟ์สไตล์ ดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์